
CE CorVit (ซีอี คอร์วิท)
สารสกัดหลักจากสมุนไพร
สารสกัดจำนวน 6 ชนิดที่มีศักยภาพในการยับยั้ง การติดเชื่อไวรัส มีปริมาณสารสกัดเข้มขันไม่เป็นพิษ ต่อเซลล์ของร่างกาย โดยผ่านการทดสอบและเทียบ เคียงกับผลการยับยั้งของ FDA ได้แก่ Niclosamide และ Hydroxychloroquine
มีส่วนผสมของสารสกัดที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพ

ยีสต์เบต้ากลูแคน
“เบต้ากลูแคน” เป็นสารสกัดที่สามารถพบได้จากหลายๆ แหล่งตามธรรมชาติ เช่น ธัญพืช อย่าง ข้าวโอ๊ต, ข้าวบาร์เล่ย์ หรือเชื้อรา อย่าง เห็ด
ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถกระตุ้นระบบภูมิต้านทานของร่างกาย ใช้ป้องกันโรคติดเชื้อจากจุลชีพต่างๆ
- กระตุ้นให้ไขกระดูกเพิ่มการผลิตเม็ดเลือดขาว ทำให้มีเซลล์ภูมิคุ้มกันเพิ่มปริมาณมากขึ้นจนเพียงพอที่จะทำลายผู้บุกรุก(เชื้อโรค)ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เพิ่มประสิทธิภาพของ เม็ดเลือดขาว ในการจับกินผู้บุกรุก(เชื้อโรค) โดยกระตุ้นให้ เม็ดเลือดขาว สามารถทำลายผู้บุกรุกได้อย่างว่องไวมากขึ้น และส่งสัญญาณเตือนภัยไปเซลล์ต่างๆโดยการหลั่งสารเคมีสื่อสารออกไป
- พัฒนาเซลล์ภูมิต้านทานทั้งหลายให้สามารถเคลื่อนที่ไปยังผู้รุกราน(เชื้อโรค)ตรงบริเวณเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น ทันต่อเหตุการณ์

กระชาย
เป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน แคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินบี1 วิตามินบี3 วิตามินซี และไนอาซิน
ยังมีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย มีฤทธิ์ช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้กระเพาะ ลำไส้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ช่วยให้เจริญอาหาร
- ต้านเชื้อแบคทีเรีย (antibacterial)
- ต้านเชื้อไวรัส (antiviral activities)
- ต้านมะเร็ง (antineoplastic)
- ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)
สาร pinostrobin และ panduratin A ในกระชาย
- สามารถที่จะลดจำนวนเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19
- ยับยั้งในการผลิตตัวไวรัสโควิด-19 ออกจากเซลล์ คือเซลล์นั้นไม่สามารถที่จะผลิตตัวไวรัสตัวใหม่ออกมา

พลูคาว
พลูคาวจัดเป็นพืชสมุนไพรที่นิยม ในตำราสมุนไพรไทย แนะนำให้ใช้พลูคาว ต้มเอาน้ำดื่ม เป็นยาขับปัสสาวะ แก้อาการบวมน้ำ แก้โรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ฝีอักเสบ ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ บิด และวัณโรค
- ในพลูคาวมีมากถึง 300 กว่าชนิด มีฤทธิ์การทำงานหลักด้านการต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) ของเซลล์ต่างๆภายในร่างกาย
- ต้านเชื้อแบคทีเรีย (antibacterial)
- ต้านเชื้อไวรัส (antiviral activities)
- ต้านการกลายพันธุ์ของเซลล์ในร่างกาย (antimutagenic) และต้านมะเร็ง (antineoplastic)
- ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)
- ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory)
- ยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด (antiplatelet)

งาดำ
งาดำมีประโยชน์ทำให้สุขภาพหัวใจแข็งแรงขึ้น เพราะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลทำให้ระบบไหลเวียนเลือดจึงดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือดหรือโรคความดันโลหิตสูง
มีธาตุเหล็กสูง จึงช่วยบำรุงเลือด ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและยังช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ร่างกายจึงแข็งแรงต่อเชื้อโรค
ป้องกันโรคหวัด โรคเหน็บชา ตะคริว
- มีธาตุทองแดง ออกฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ (anti-inflammatory)
- ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)
- ช่วยบำรุงสายตา
- มีวิตามินอีช่วยบำรุงผิวพรรณ และอุดมไปด้วยแคลเซียมและสังกะสีที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เพิ่มมวลกระดูก
- ช่วยบำรุงหัวใจ ลดระดับคอเลสเตอรอลทำให้หลอดเลือดหัวใจสะอาด ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น

ขิง
ขิงเป็นสมุนไพร อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่มากมาย รวมถึงแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ
สารสกัดจากขิงมีส่วนสำคัญในการช่วยในการบำรุงระบบประสาทและสมอง และความจำเป็นอย่างดี เนื่องจากสารอาหารสำคัญในขิง จะช่วยบำรุงความคิด ความจำ และช่วยให้อารมณ์ผ่อนคลาย ไม่เครียดและวิตกกังวล และยังช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยลดการกำเริบของอาการไมเกรนที่เกิดจากการอักเสบของเส้นประสาท
- ต้านมะเร็ง (antineoplastic)
- ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)
- ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory)
- ต้านเชื้อปรสิต Toxoplasma gondii ที่อาศัยอยู่ภายในเซลล์บุลำไส้ของแมว หรือสัตว์ในตระกูลแมว
- ฤทธิ์แก้คลื่นไส้ อาเจียน จากการเมารถ เมาเรือ
- บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้ออันเนื่องมาจากการออกกำลังกาย

สาหร่ายสไปรูลิน่า
เป็นแหล่งที่ให้ปริมาณโปรตีนสูงถึง 60-70% อุดมด้วยกรดอะมิโนหลายชนิด
สารออกฤทธิ์หลักเรียกว่าไฟโคไซยานิน สารต้านอนุมูลอิสระนี้ยังช่วยให้สาหร่ายเกลียวทองมีสีเขียวอมฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์
- ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)
- ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory)
- ช่วยป้องกันเซลล์สมองไม่ให้ถูกทำลาย (neuroprotective)
ไอโซลิวซีน (Isoleucine) : จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ผิวหนัง
ลิวซีน (Leucine) : กระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มกำลังให้กล้ามเนื้อ
ไลซีน(Lysine) : เสริมสร้างการเจริญเติบโต สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและภูมิคุ้มกันระบบโลหิต มีผลให้ระบบไหลเวียนโลหิตแข็งแรง
เมทไทโอนีน ( Methionine) : ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมันและกรดไขมัน จึงบำรุงรักษาตับได้ และเป็นสารต้านความเครียด ทำให้ประสาทผ่อนคลาย
เฟนิลอะลานีน ( Phenylalanine ) : มีความจำเป็นสำหรับต่อมไธรอยด์ต่อการสร้างฮอร์โมนไธรอยด์ ที่จำเป็นต่อการเผาผลาญอาหารของร่างกาย
เทรีโอนีน ( Threonoine ) : ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย โดยเฉพาะระบบทางเดินอาหาร ให้มีการย่อยและการดูดซึมที่ดีขึ้น ช่วยป้องกันการจับตัวของไขมันที่ตับ
ทริพโตเฟน ( Tryptophan ) : ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวิตามินบีได้มากขึ้น ส่งผลให้เซลล์ประสาทแข็งแรงและทำงงานได้ดีขึ้น ทำให้ช่วยผ่อนคลายความเครียดและทำให้เกิดความสงบใจเย็นลงได้
วาลีน (Valine ) : กระตุ้นการทำงานของระบบการควบคุมอารมณ์ และการประสานงานการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ
สารไฟโคไซยานิน ( Phycocyanin ) และโพลีแซคคาไรด์ ( Polysaccharide ) ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว จึงช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน
ป้องกันโรคโลหิตจาง เนื่องจากอุดมด้วยธาตุเหล็กและโฟลิกแอซิค
มีกรดแกมม่าไลโนเลนิก (GLA) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นของร่างกาย ที่ช่วยลดปริมาณของคลอเรสเตอรอลในเลือด
อุดมด้วยสารกลุ่มคาร์โรทีนอยด์ โดยเฉพาะเบต้าคาร์โรทีน ซึ่งจะเป็นสารที่ให้วิตามินเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสายตา
8. คุณค่าอื่นๆ ของสาหร่ายสไปรูลิน่ายังมีอีกมาก

ถั่งเช่า
มีงานวิจัยว่า ถั่งเช่า สามารถลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและเซลล์เนื้องอกหลายชนิดในสัตว์ทดลอง ซึ่งน่าจะมีผลมาจากการยับยั้งเอนไซม์เทโลเมอร์เรสในเซลล์มะเร็ง และฤทธิ์การต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดในร่างกาย ซึ่งการแพทย์ทางเลือก มีการนำมาใช้ในผู้ป่วยมะเร็งที่หมดทางรักษา แต่การศึกษายืนยันในคนที่ถูกตีพิมพ์ลงวารสารทางการแพทย์ยังมีไม่มากนัก
- เพิ่มภูมิต้านทานร่างกาย และยับยั้งภูมิต้านทานที่มากเกินไปภาวะภูมิแพ้ตัวเอง
- ลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
- ช่วยเพิ่มจำนวนอสุจิและฮอร์โมนเพศชายได้ จึงน่าจะมีประโยชน์ในผู้ที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย
- ได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการหนาวง่าย มือเท้าเย็น ปัสสาวะบ่อย และโรคไตเรื้อรัง

มะขามป้อม
มะขามป้อมเป็นสารสำคัญที่ช่วยเป็นยารักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคในระบบหายใจ ระบบทางเดินอาหาร แผลในลำไส้ ลดไขมัน และน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการไหล เวียนของโลหิต
ช่วยควบคุมโรคเบาหวาน กระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลิน ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
มีวิตามินซีสามารถดูดซึมได้เร็วกว่าวิตามินซีในฟอร์มอื่นๆ
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- ลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาลและไขมันในเลือด การป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
- ช่วยป้องกันและรักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยบำรุงปอด หลอดลม หัวใจ และกระเพาะ รักษาโรคหอบ หืด หลอดลมอักเสบ อาการคลื่นไส้อาเจียนได้
- ล้างพิษในตับ ยับยั้งความเป็นพิษของตับและไตได้
- มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัส (antiviral activities)
- มีฤทธิ์ต่อต้านแบคทีเรีย (antibacterial)
- มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อรา (antifungal)

อะเซโรล่า เชอร์รี่
มีความโดดเด่นในเรื่องของวิตามินซีธรรมชาติ ที่มีปริมาณมาก โดยให้ปริมาณวิตามินซีสูงกว่าส้ม 30-80 เท่า และมีสารอาหารอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น ไบโอฟลาโวนอยด์, วิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ
- ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- สารออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราจำพวก Epidermephyton floccosum, Microsporum canis และ Trichophyton rubrumm
- ช่วยในเรื่องทำผิวขาว ผิวพรรณกระจ่างใส ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลและทำให้สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น
- สามารถใช้เพื่อป้องกันโรคหวัด บรรเทาอาการภูมิแพ้
- ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)
- ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันโรคที่เกิดจากการขาด วิตามินซี

วิตามินซี
มีสรรพคุณต่อร่างกายมากมาย เช่น ป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิด เป็นสารอาหารจำเป็นที่ใช้ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพของยาที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
- เสริมภูมิต้านทานและช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ผิวหนัง
- ช่วยลดการทำงานของเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสีผิว
- ช่วยปรับสีผิวที่คล้ำจากแสงแดดให้ดูกระจ่างใสมากขึ้น
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่มีประสิทธิภาพสูงช่วยปกป้องเซลล์
- ช่วยลดการเกิดเส้นเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ

ต้นอ่อนข้าวสาลี
ต้นอ่อนข้าวสาลีเป็นแหล่งของวิตามินต่าง ๆ มากมาย
วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินอี วิตามินซี วิตามินเค แคลเซียม ซีลีเนียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก กรดอะมิโน และคลอโรฟิลล์
- สามารถเร่งการสร้าง enzyme ในผิว ปกป้องอนุมูลอิสระซี่งเป็นต้นเหตุแห่งความเสื่อมสภาพของเซลล์
- ลดการอักเสบของผิวจากแสงแดดและช่วยป้องกันการแตกของเม็ดเลือดแดง
- ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดและการอุดตันของเส้นเลือด
- ช่วยลดการเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนัง ช่วยรักษาแผลเป็น และช่วยลดริ้วรอยบนผิว
- ลดการเกิดกระบวนการอักเสบในร่างกายที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆ

วิตามินบี 1, 2, 6
วิตามินบีแต่ละตัวจะทำงานเสริมซึ่งกันและกัน ต้องรับประทานร่วมกันจึงจะมีประสิทธิภาพมากกว่าแยกรับประทาน โดยวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 ควรรับประทานในปริมาณที่เท่า ๆ กัน
วิตามินบี ร่างกายไม่สามารถเก็บสะสมไว้ได้ หากมีอยู่ในร่างกายมากเกินไปก็จะถูกขับออกมา จึงจำเป็นที่จะได้รับทุกวัน
- วิตามินบี 1 ช่วยบำรุงประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจให้ทำงานเป็นปกติ
- วิตามินบี 2 เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าของสายตา
- วิตามินบี 6 โดยทั่วไปแล้วใช้เพื่อรักษาโรคโลหิตจางแต่กำเนิด ที่เรียกว่าโรคเลือดจางชนิดซิเดโรบลาส (Sideroblastic Anemia) ภาวะขาดไพริดอกซีน ระดับสารโฮโมซีสทีนในเลือดสูง และอาการชักบางชนิดในเด็กแรกเกิด
